Recent Posts

Posts RSS

สรุปกฎหมายลักษณะพยาน

การรับฟังพยานบุคคล > ประเด็นที่ 1 ความหมายพยานบอกเล่า
พยานบุคคลหมายถึง บุคคลที่มาเบิกความต่อศาลและการเบิกความของพยานบุคคลจะเป็นการเบิกความจากความทรงจำของตนจากสิ่งที่ตัวเองได้ประสบพบเห็นมา
ข้อสังเกต
(1).พยานบุคคลอาจเป็นพยานวัตถุก็ได้
(2).บุคคลที่มาพูดหรือติดต่อศาลไม่ได้หมายความว่าเป็นพยานบุคคลเสมอไป เพราะจะเป็นพยานได้ต้องยื่นระบุบัญชีพยานด้วย(ฎ.145/2522,3130/2523)
วินิจฉัยว่า โจทก์หรือจำเลย ไม่ได้ยื่นระบุบัญชีพยาน แต่อ้างตนเองเป็นพยานและนำตัวเองเข้าสืบ ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ศาลไม่ยอมให้สืบเพราะไม่ได้ระบุบัญชีพยาน แม้จะอ้างว่าเป็นโจทก์หรือคู่ความก็ตาม

พยานบุคคลจะเบิกความถึงเหตุการณ์ในอดีต
ตรรกของการเบิกความของพยานบุคคลประกอบด้วย 3 ขั้นตอน
- การสัมผัสกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
- การจดจำ
- การถ่ายทอด
หลักเกณฑ์ในการรับฟังพยานบุคคลแบ่งได้ 3 หลักคือ
- ความสามารถในการที่จะเป็นพยาน
- ลักษณะของความใกล้ชิดกับข้อเท็จจริงของพยาน
- ลักษณะของการถ่ายทอดข้อเท็จจริง
พยานบอกเล่าตามกฎหมายไทย

มาตรา 95 ห้ามมิให้ยอมรับฟังพยานบุคคลใด เว้นแต่บุคคลนั้น
(1) สามารถเข้าใจและตอบคำถามได้ และ
(2) เป็นผู้ที่ได้เห็น ได้ยิน หรือทราบข้อความเกี่ยวในเรื่องที่จะให้การเป็นพยานนั้นมาด้วยตนเองโดยตรง แต่ความในข้อนี้ให้ใช้ได้ต่อเมื่อไม่มีบทบัญญัติแห่งกฎหมายโดยชัดแจ้งหรือคำสั่งศาลว่าให้เป็นอย่างอื่น

บทบัญญัติว่าด้วยการห้ามรับฟังพยานบอกเล่าของไทยต่างจากหลักสากลอยู่หลายประการ
ประการที่ 1 มาตรา 92 ใช้กับพยานบุคคลเท่านั้น ไม่ใช้กับพยานเอกสารหรือพยานวัตถุ
พยานบอกเล่าจะมีสิ่งที่สำคัญเกี่ยวเนื่อง 3 สิ่ง
- ตัวบุคคลที่ไปประสบพบเห็นข้อเท็จจริงหรือที่เรียกว่าผู้บอกเล่า
- ข้อความที่เขาบอกเล่าซึ่งมีลักษณะเป็นการติดต่อสื่อวารระหว่างผู้บอกเล่ากับพยานบอกเล่า
- ตัวพยานบอกเล่า
มาตรา 95(2) ห้ามรับฟังพยานบอกเล่าเฉพาะสื่อที่เป็นบุคคลเท่านั้น แต่ถ้าบุคคลที่ไปประสบพบเห็นเหตุการณ์และถ่ายทอดลงสื่ออื่นเช่นในเอกสารหรือวัตถุต่างๆ ก็ไม่ต้องห้ามรับฟังตามมาตรา 95(2) เพราะบันทึกดังกล่าวไม่ใช่พยานบุคคล
- แนวฎีกาถือว่า คำให้การชั้นสอบสวน เป็นพยานบอกเล่า(ฎ.3825/2524,2957/2532)
ประการที่ 2 การที่บุคคลมาเป็นพยานแล้วเบิกความถึงคำบอกเล่าของผู้อื่น หรือเบิกความถึงคำกล่าวหรือคำพูดของคนอื่นไม่ได้หมายความว่าพยานบุคคลนั้นจะเป็นพยานบอกเล่าเสมอไป ต้องดูจุดประสงค์การนำพยานนั้นมาสืบด้วย เพราะถ้าพยานนั้นเบิกความถึงคำพูดหรือคำกล่าวของคนอื่นเพียงเพื่อพิสูจน์ว่ามีการกล่าวคำพูดนั้นจริงๆเช่นนี้ การนำสืบเพื่อพิสูจน์ความมีอยู่ของคำพูดหรือคำกล่าวนั้น ดังนั้น เมื่อตัวพยานบุคคลได้ยินการกล่าวข้อความมาด้วยตนเอง พยานบุคคลนั้นก็จะเป็นประจักษ์พยาน ไม่ใช่พยานบอกเล่า(ฎ.266/2488)

ประการที่ 3 คำบอกเล่าซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเหตุการณ์ที่เป็นประเด็นแห่งคดีหรือเกี่ยวเนื่องกับประเด็นแห่งคดี ไม่ถือว่าเป็นพยานบอกเล่า
ฎีกาที่ 304/2500 ตำรวจเป็นพยานเบิกความว่าพอเกิดเหตุแล้วจำเลยได้ออกมาจากที่เกิดเหตุฆาตกรรมมีผู้ดเดินตามจำเลยออกมาและชี้บอกแก่ตำรวจให้จับจำเลยเป็นคนแทงผู้ตาย คำของตำรวจเป็นพยานชั้นหนึ่งไม่ใช่พยานบอกเล่าเพราะคำบอกเล่าของผู้ที่ตามจำเลยออกมานั้นเป็นคำบอกเล่าในขณะที่กระชั้นชิดทันทีซึ่งตามธรรมชาติยังไม่ทันมีช่องโอกาสแกล้งปรักปรำ ศาลรับฟังประกอบพฤติเหตุอื่นๆลงโทษจำเลยได้
ฎีกาที่ 308/2510 ผู้ตายคิดว่าตนเองจะยังไม่ตายได้บอกกำนันระบุชื่อจำเลยว่าเป็นคนร้ายที่ยงิตนโดยไม่ปรากฏว่าในขณะนั้นผู้ตายมีสติฟั่นเฟือนเพราะความเจ็บปวดหรือสำคัญผิดในตัวคนร้ายหรือคาดคะเนคนร้ายโดยพลการแต่ประการใด คำบอกเล่าเช่นนี้รับฟังได้ในฐานะเป็นคำบอกกล่าวในเวลากระชั้นชิดกับเหตุการณ์ที่ยังไม่มีโอกาสที่ผู้บอกเล่าจะคิดใส่ความได้ทัน เป็นพฤติการณ์ประกอบพยานโจทก์นำไปสู่การติดตามรู้ตัวผู้กระทำผิดและได้พยานหลักฐานอื่น(ฎีกานี้ ผู้ตายไม่คิดว่าตนเองจะตาย ทำให้คำบอกเล่าของเขาไม่เข้าข้อยกเว้นเรื่องคำบอกเล่าในขณะที่รู้ตัวว่าใกล้จะตาย)
ฎีกาที่ 4418/2533 คำให้การรับสารภาพของจำเลยโดยสมัครใจในชั้นสอบสวนและนำชี้ที่เกิดเหตุประกอบคำรับสารภาพนั้น ศาลรับฟังประกอบคำเบิกความของบิดาผู้เสียหายซึ่งได้รับฟังคำบอกเล่าของผู้เสียหายในโอกาสแรกที่พบกันหังเกิดเหตุและมีสาระสำคัญตรงกัน ลงโทษจำเลยฐานพยายามกระทำชำเราเด็กหญิงได้
ประเด็นที่ 2 หลักการห้ามรับฟังพยานบอกเล่า
ให้ดูมาตรา 85 , 86 ,87 , 93 , 94 , 95

0 ความคิดเห็น:

บทความที่ได้รับความนิยม